นายปิแอร์ อองเดรย์ ประธานกรรมการแอร์บัสประจำประเทศไทย เปิดเผยว่า ประเทศไทยเป็นตลาดสำคัญของแอร์บัสที่ขยายตัวเติบโตขึ้น จนกลายเป็นซัพพลายเออร์หลักของเครื่องบินพาณิชย์ เครื่องบินป้องกันทางอากาศและอวกาศ และเฮลิคอปเตอร์ของแอร์บัส สำหรับเครื่องบินแอร์บัสที่ให้ปฏิบัติการบินโดยสายการบินหลักในประเทศไทย มี 62 ลำ ซึ่งครอบคลุมเกือบจะทุกรุ่นในสายการผลิต ประกอบด้วย เครื่องบินตระกูล เอ320 (A320) ตระกูล เอ330 (A330) เอ350 (A350) และเอ380 (A380) ถือเป็นความสำเร็จอย่างเห็นได้ชัด

นายปิแอร์ อองเดรย์ กล่าวต่อว่า ส่วนเฮลิคอปเตอร์และเครื่องบินทางทหาร ประเทศไทยใช้เฮลิคอปเตอร์ของแอร์บัสเกือบทุกสายผลิตภัณฑ์ มีอากาศยานปีกหมุน 70 ลำ และอากาศยานปีกตรึง (Fixed-wing aircraft) ที่ใช้ทางทหาร 20 ลำ ได้แก่ เฮลิคอปเตอร์ขนส่งลำเลียงอเนกประสงค์รุ่น เอช145เอ็ม (H145M) ของกองทัพเรือไทย เฮลิคอปเตอร์อเนกประสงค์รุ่นใหม่ล่าสุด เอช225เอ็ม (H225M) และเอช135 (H135) เฮลิคอปเตอร์สำหรับฝึกซ้อมทางทหารรุ่นใหม่ของกองทัพอากาศไทย ขณะเดียวกันเครื่องบินลำเลียงทางยุทธวิธีรุ่น ซี295 (C295) ก็มีบทบาทสำคัญต่อกองทัพบก ทั้งนี้อากาศยานเหล่านี้ถูกนำไปปฏิบัติการในภารกิจที่หลากหลาย เช่น การค้นหาและกู้ภัย บริการทางการแพทย์ฉุกเฉิน การช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม การลำเลียงกำลังพล สาธารณประโยชน์ และการท่องเที่ยว

นายปิแอร์ อองเดรย์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้แอร์บัสยังให้การสนับสนุนความพยายามด้านอวกาศของไทยมาโดยตลอด ซึ่งแอร์บัสภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับเลือกให้สร้างระบบข้อมูลทางภูมิศาสตร์ธีออส-2 (THEOS-2) โดยดาวเทียมดวงนี้มีกำหนดการปล่อยในช่วงปลายปี 65 หรือช่วงต้นปี 66 โดยเมื่อเดือน มิ.ย.65 แอร์บัส และสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (GISTDA) ได้ลงนามในหนังสือแสดงเจตจำนงความร่วมมือที่เกี่ยวข้องกับภารกิจด้านอวกาศของประเทศไทยในอนาคต ในการเตรียมดำเนินการนำดาวเทียมของไทย และบริการในอนาคตมาใช้

เพื่อขยายขีดความสามารถของระบบอวกาศของไทย ให้สอดรับกับความต้องการของประเทศ และมีส่วนพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ และความเป็นอยู่ในสังคมให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น อย่างไรก็ตามประเทศไทยเป็นพันธมิตรหลักของแอร์บัส และเรายังคงมุ่งมั่นที่จะเสริมสร้างความสัมพันธ์ในไทยให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น เพื่อสนับสนุนภาคส่วนการบินและอวกาศที่กำลังเติบโตต่อไป.คำพูดจาก สล็อตเว็บตรง